เลื่อนเปิดเมือง 5 จังหวัดสำคัญไปเป็น 1 พ.ย.โปรโมทเที่ยวในประเทศขยายถึง ก.พ. 65

เลื่อนเปิดเมือง 5 จังหวัดสำคัญไปเป็น 1 พ.ย.โปรโมทเที่ยวในประเทศขยายถึง ก.พ. 65
Highlight

สรุปมติเปิดเมืองเลื่อนไป 1 พ.ย. กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ประชาชนต้องได้วัคซีนครบโดสครอบคลุม 70% เสียก่อนเพื่อความปลอดภัย รัฐบาลเตรียมยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินมีผล 30 กันยายนนี้ และส่งผลให้ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) สิ้นสุดภารกิจลงด้วยเช่นกัน ด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เตรียมพร้อมโปรโมทแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดต่างๆ เพิ่ม 25 จังหวัดเพื่อรองรับโครงการท่องเที่ยวในประเทศ “เราเที่ยวด้วยกัน และ “ทัวร์เที่ยวไทย” ขยายโครงการถึง 28 กุมภาพันธ์ 2565


นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า หลังจากการประชุมร่วมกับคณะทำงานเพื่อกลั่นกรองแผนดำเนินการเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว เพื่อนำบทสรุปนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมศูนย์ปฎิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก. ศบค. หรือ ศบค.ชุดเล็ก) ในวันนี้ (22 ก.ย.) ได้ข้อสรุปว่าะต้องเลื่อน การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ จากเดิม 1 ตุลาคม เป็น 1 พ.ย. แทน โดยจังหวัดท่องเที่ยวหลักที่จะเลื่อนการเปิดแซนด์บ็อกซ์ออกไปประกอบด้วย

  • กรุงเทพฯ 
  • เชียงใหม่ (อ.เมืองฯ อ.แม่ริม อ.แม่แตง อ.ดอยเต่า)
  • ชลบุรี (เมืองพัทยา อ.บางละมุง อ.สัตหีบ)
  • เพชรบุรี (ชะอำ)
  • ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน)

การเลื่อนกำหนดการจากเดิม 1 ตุลาคม ไปเป็นวันที่ 1 พ.ย.นี้แทน เพื่อให้ทุกพื้นที่ระดมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ได้ครบโดสไม่น้อยกว่า 70% ตามเกณฑ์การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขหลักของการพิจารณาเปิดพื้นที่นำร่องนั้นๆ ประกอบกับขณะนี้สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศยังไม่แน่นอน คณะทำงานจากกระทรวงสาธารณสุข จึงเห็นควรให้เลื่อนกำหนดการอย่างน้อย 1 เดือนจากกำหนดเดิม

“แม้แนวโน้มการเปิดพื้นที่นำร่องของทั้ง 5 จังหวัดดังกล่าวอาจจะต้องเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 1 พ.ย.นี้ แต่ ททท.ไม่มีความกังวล เพราะมองว่าเป็นการดีกว่าหากทุกพื้นที่ที่เตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมีสัดส่วนการฉีดวัคซีนที่พร้อมมากกว่านี้ โดยเท่าที่ตรวจสอบพบว่าปัจจุบันยังมีอีกหลายแห่งรอการจัดสรรวัคซีนอีกจำนวนมาก” นายยุทธศักดิ์กล่าว 

เลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เตรียมเปิดเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ขณะเดียวกันที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวานนี้ (21 กันยายน) ได้เห็นชอบวาระสำคัญของรัฐบาล ด้วยการยกร่างพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 (พ.ร.ก.คุมโรค)

โดยจะไม่ขยายระยะเวลาการบังคับใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ที่จะสิ้นสุดลงวันที่ 30 ก.ย. 2564 ส่งผลให้เป็นการยกเลิกการประกาศบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปโดยอัตโนมัติ

นอกจากนี้ การไม่ขยายเวลาการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไป และส่งผลให้การบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินสิ้นสุดลง ยังทำให้ ศบค. ซึ่งตั้งขึ้นโดยอาศัยอำนาจ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาตรา 7 วรรคห้า ต้องมีอันสิ้นสภาพไป

ท่องเที่ยวในประเทศ เฟส 3 ขยายถึง  28 ก.พ. 65

ที่ประชุม ครม. เมื่อ 21 ก.ย. ได้อนุมัติการเปลี่ยนแปลงรายละเอียด แผนระยะเวลา การดำเนินการ”โครงการเราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 3 และ”ทัวร์เที่ยวไทย” ขยายเวลาสิ้นสุดทั้ง 2 โครงการในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 

ทั้งนี้สามารถใช้สิทธิได้ในเดือนตุลาคม 2564 ถึง 31 มกราคม 2565 และให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เร่งรัดการเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน

“โครงการเราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 3 เปิดให้ผู้ประกอบการสมัครลงทะเบียนตั้งแต่ 24 กันยายน-1 ตุลาคม 2564 ส่วนหลักเกณฑ์การใช้สิทธิ มี 2 ล้านสิทธิ ผู้ลงทะเบียนจะต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป รัฐบาลสนับสนุนค่าโรงแรม 40% ไม่เกิน 3 พันบาทต่อห้อง/คืน ให้คูปองอาหาร 600 บาท/คืน สนับสนุนตั๋วเครื่องบิน 40% ไม่เกิน 2 พันบาท หรือ 3 พันบาท โดยดูตามเงื่อนไขของแต่ละจังหวัด ผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com 

“โครงการทัวร์เที่ยวไทย” เปลี่ยนหลักเกณฑ์และเงื่อนไข โดยให้สามารถเดินทางข้ามจังหวัด จากเดิมวันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี และเปลี่ยนจำนวนรายการแพ็กเกจนำเที่ยวจาก 15 รายการต่อบริษัท เป็น 30 รายการต่อบริษัท ขณะการใช้สิทธิของทัวร์เที่ยวไทยจำนวน 1 ล้านสิทธิ ผู้ลงทะเบียนรับสิทธิจะต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป รัฐบาลสมทบให้ 40% ของแพ็กเกจท่องเที่ยว หรือไม่เกิน 5 พันบาทต่อคน

โครงการ “ทัวร์เที่ยวไทย” เที่ยวผ่านบริษัททัวร์ 1 ล้านสิทธิ ผ่าน www.ทัวร์เที่ยวไทย.com รัฐบาลสนับสนุนสูงสุด 5,000 บาท ตั้งแต่ 24 ก.ย. สำหรับเดินทางท่องเที่ยวตั้งแต่ 15 ต.ค.เป็นต้นไปถึง กุมภาพันธ์ 2565 ทั้งนี้ รัฐบาลมีแผนเปิดพื้นที่ท่องเที่ยวสำหรับรองรับการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ หรือไทยเที่ยวไทย 25 จังหวัด วันที่ 15 ต.ค.ด้วย

ภูเก็ตเปิดเข้าได้ทุกช่องทางเริ่ม 1 ต.ค.

นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธาน มีมติปรับปรุงคำสั่งจังหวัดภูเก็ต เรื่องการคัดกรองบุคคลที่จะเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยคลายล็อก การเดินทางเข้าจังหวัดให้ทุกคนสามารถเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตได้ทุกช่องทาง ทั้งสนามบินภูเก็ต ผ่านด่านตรวจภูเก็ต (ด่านตรวจท่าฉัตรไชย) และทางเรือทุกท่าเรือ แต่ต้องฉีดวัคซีนชนิดต่างๆครบโดส หรือเคยป่วยติดเชื้อโควิด-19 ไม่เกิน 6 เดือน และจะต้องมีใบรับรองการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นลบด้วยวิธี RT-PCR หรือวิธี Antigen Test ภายใน 7 วัน ส่วนกรณีที่เดินทางผ่านด่านตรวจนำชุดตรวจ ATK (Antigen Test Kit) ที่ได้มาตรฐานรับรองจาก อย.มาตรวจเองและยืนยันผลกับเจ้าหน้าที่และใช้รับรองผลได้ 7 วัน รวมไปถึงโหลดแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” โดยมาตรการดังกล่าวจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.64 เป็นต้นไป

เชียงใหม่รับนักท่องเที่ยวต่อจากภูเก็ต 

นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. กล่าวว่า ล่าสุด จ.เชียงใหม่ มีการปรับรายละเอียดแผนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มเติม โดยในระยะแรกจะไม่รับนักท่องเที่ยวเองจากเที่ยวบินตรง แต่ให้เข้าร่วมโปรแกรม “7+7 Phuket Extension” เพื่อรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ครบ 7 วันก่อน แล้วจึงเดินทางมายังเชียงใหม่ได้ เนื่องจากตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ จะเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ของตลาดท่องเที่ยวในประเทศแล้ว ผู้ประกอบการจึงให้ความหวังกับตลาดคนไทยที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวในฤดูหนาวมากกว่า

ที่มา : ททท. ไทยรัฐ
 

ติดต่อโฆษณา!