เปิดความสำเร็จยูนิคอร์นบริษัทแรกของไทย "FLASH EXPRESS" ปี 65 เตรียมบุกตลาดอาเซียน

Highlight

Flash Express บริษัทขนส่งสัญชาติไทยและ e-commerce ขึ้นแท่นเป็นยูนิคอร์นสัญชาติไทยตัวแรกเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2564 ที่ผ่านมา หลังจากสามารถปิดยอดการระดมทุนจากพาร์ทเนอร์รายใหม่ได้สำเร็จ จากพนักงานเพียง 9 คนสู่ 30,000 คนในเวลาเพียง 3 ปี สะท้อนถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดด กลายเป็นผู้เล่นแถวหน้าในตลาดโลจิสติกส์เมืองไทย สำหรับปี 65 เตรียมบุกตลาดอาเซียน

เมื่อเดือนมิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา Flash Express ขึ้นแท่นเป็นยูนิคอร์นสัญชาติไทยตัวแรก ด้วยการปิดยอดระดมทุนจากกลุ่ม Buer Capital Limited และ SCB 10X ร่วมทุน พร้อม eWTP -โออาร์-เดอเบล-กรุงศรีฟินโนเวต ยอดเงินลงทุนรวมกว่า  150 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 4,700 ล้านบาท

Flash Express ผู้ให้บริการขนส่งสัญชาติไทย และ e-Commerce แบบครบวงจร ก่อตั้งขึ้นโดยคุณคมสันต์ แซ่ลี นักธุรกิจชาวลำปาง จากวันที่เริ่มก่อตั้งธุรกิจ มีพนักงานไม่ถึง 9 คน

คุณคมสันต์ได้มีโอกาสได้ทำธุรกิจกับชาวจีนทำให้เขาเล็งเห็นว่าธุรกิจขนส่งสินค้าในวงการอีคอมเมิร์ซนั้นก้าวไปไกลมาก ซึ่งในประเทศไทยนั้นยังมีช่องทางให้พัฒนาได้อีกเยอะและมีผู้ให้บริการเพียงไม่กี่เจ้า คุณคมสันต์ร่วมมือกับทีมงานมืออาชีพจากจีนมาวางระบบให้บริษัท และได้เปิดตัวขนส่ง Flash Express ในปี กลางปี 2561

จากวันที่เริ่มก่อตั้งธุรกิจ มีพนักงานไม่ถึง 9 คน ผ่านมา 3 ปี กับจำนวนพนักงานที่มีมากกว่า 30,000 คน เป็นการสะท้อนถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ Flash Express พร้อมทั้งกลายเป็นผู้เล่นแถวหน้าในตลาดโลจิสติกส์เมืองไทย

จากเดิมกลุ่มธุรกิจแฟลช (Flash Group) ก่อตั้งขึ้นจากแนวคิด การเป็นผู้ให้บริการ E-commerce สัญชาติไทยแบบครบวงจร โดยได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มนักลงทุนหลายอุตสาหกรรมเข้ามาร่วมทุน ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจแฟลช (Flash Group) มีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดด พร้อมธุรกิจในเครือหลากหลายประเภท

Flash Express แสดงให้เห็นว่าบริษัทนั้นเลือกความต้องการของลูกค้าเข้ามาเป็นหัวใจหลักของธุรกิจ รวมถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ใครที่กำลังวางแผนที่จะทำธุรกิจหรือกำลังทำธุรกิจอยู่ลองหันกลับมามองกลุ่มลูกค้าของตัวเองว่าต้องการอะไร และเอาตรงนั้นมาพัฒนาต่อยอดธุรกิจของคุณ รับรองว่าความสำเร็จอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน

แนวคิดธุรกิจที่นำไปสู่ความสำเร็จสไตส์ คมสันต์ ลี 

อยากแจ้งเกิด...ต้องแตกต่าง

ย้อนกลับไป ณ วันเริ่มต้นธุรกิจ Flash Express เป็นเพียง Startup หน้าใหม่ที่เห็นโอกาสในตลาด e-Commerce โดยคมสันต์พยายามจะมองหาธุรกิจที่ใช่สำหรับตัวเอง เพราะถ้าจะให้ทำ e-Commerce เชื่อว่าไม่สามารถแข่งขันได้ จึงมองว่ายังมีโอกาสอะไรอีกบ้างที่จะเติบโตไปตามเทรนด์การค้าออนไลน์นี้ได้ และพบว่า สิ่งที่มีความจำเป็นและเป็นที่ต้องการมากที่สุดของ e-Commerce นั่นก็คือ ธุรกิจโลจิสติกส์

“ในการทำธุรกิจสิ่งที่ต้องมองให้เห็นคือ โอกาสการเติบโต ถ้าเป็นอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตค่อนข้างเล็ก อาจทำให้เราขยายตัวได้ยาก เพราะถ้าเราจะขยายตัว เท่ากับคนอื่นต้องหดตัว ดังนั้น การจะตัดสินใจก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมใดก็ตาม ต้องแน่ใจว่า ตลาดนั้นมีการเติบโตที่มากพอ”

แม้โลจิสติกส์จะเป็นตลาดที่มีโอกาส แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องแข่งขันกับผู้ให้บริการรายเดิมที่อยู่ในตลาดมาก่อน ในฐานะน้องใหม่ การจะสร้างตัวตนให้เกิดขึ้นได้ จำเป็นต้องสร้างความแตกต่างให้ชัดเจน



เติมเต็มในสิ่งที่ขาด

กลยุทธ์แรกที่ Flash Express ใช้สร้างความต่างคือ การมองไปที่ผู้ให้บริการรายเดิม อะไรที่เป็นจุดแข็งของเขา เราต้องทำให้ได้ในมาตรฐานเดียวกัน และอะไรที่เป็นจุดอ่อน เราต้องเข้าไปเติมเต็มในสิ่งที่เขาขาดอยู่ 

ยกตัวอย่าง บริการที่สร้างความต่างให้กับ Flash Express เช่น การเป็นเจ้าแรกที่ให้บริการจัดส่งแบบ 365 วัน ไม่มีวันหยุด ด้วยรูปแบบการให้บริการขนส่งในเวลานั้นมักจะหยุดช่วงเสาร์-อาทิตย์ เป็นเพราะจำนวนพัสดุในช่วงเวลาดังกล่าวมีไม่มาก 

แต่เราเข้าใจดีว่าธุรกิจ e-Commerce ไม่มีวันหยุด ดังนั้นบริการของ Flash Express ก็ต้องไม่มีวันหยุดเช่นกัน แม้จะทำให้ต้นทุนสูงขึ้นก็ตาม หรือการเป็นเจ้าแรกที่ให้บริการรับสินค้าฟรีถึงหน้าบ้าน จากเดิมการให้บริการจะเป็นรูปแบบเปิดสาขา ให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ แต่ Flash Express เลือกที่จะเดินเข้าไปหาลูกค้าถึงบ้าน ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้ามากกว่า 2 ล้านราย ที่ใช้บริการรับสินค้าถึงหน้าบ้าน



“โตให้ไว ใหญ่ให้มากที่สุด” เทคนิคสำเร็จแบบ Startup

“ถ้าวันนี้เราไม่ขยายตัวให้เร็วพอ หรือใหญ่ได้มากพอ พรุ่งนี้จะมีคนที่เร็วกว่าเกิดขึ้น และทำให้เราหายไปจากตลาด” นี่คือ กฎของธุรกิจ Startup ที่คมสันต์ใช้การสเกลอัพธุรกิจ โดยโจทย์ของ Flash Express คือ ต้องโตให้เร็วที่สุด ขนาดใหญ่ที่สุด ภายในเวลาอันสั้นที่สุด ปัจจุบัน Flash Express เป็นธุรกิจที่มีมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งเบื้องหลังของการเติบโตนี้มาจาก 2 ปัจจัย ได้แก่ ปริมาณสินค้า และประสิทธิภาพ

ในแง่ปริมาณสินค้า การมีปริมาณที่มากพอ จะนำไปสู่ต้นทุนที่ลดลง เช่น รถ 1 คันสามารถขนส่งสินค้าได้ 1,000 ชิ้น แต่ถ้ามีสินค้าแค่ 500 ชิ้น เท่ากับต้นทุนจะสูงกว่าคู่แข่งหนึ่งเท่าตัว โดยสิ่งที่จะทำให้เกิดปริมาณมาก ได้มาจาก

การมีบริการเสริมที่มากกว่าคนอื่น เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เลือกใช้บริการมากขึ้น
ยอมขาดทุนก่อน เพื่อดึงดูดลูกค้า แต่เมื่อได้ปริมาณสินค้ามากพอ ก็จะทำให้ต้นทุนกับรายได้บาลานซ์กันมากขึ้น

ส่วนด้านประสิทธิภาพ Flash Express ได้สร้างวัฒนธรรมองค์กร ที่เรียกว่า “ประสิทธิภาพนำทาง” กล่าวคือ ทุกอย่างที่ทำต้องอยู่บนคำว่า ประสิทธิภาพ ซึ่งทุกคนในองค์กรจะมองเห็นเป้าหมายเดียวกัน และนำมาซึ่งความสำเร็จได้ง่ายขึ้น
เรียกได้ว่า หากเลือกธุรกิจที่ใช่ สร้างความแตกต่างได้ชัดเจน เท่านี้ธุรกิจของคุณก็พร้อมติดปีกโตได้อย่างรวดเร็วแล้ว



สรุปกลยุทธ์ของ Flash Express ทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จในเวลาที่รวดเร็ว

เสนอราคาที่ถูกกว่าและเข้าใจสิ่งที่ลูกค้าต้องการ

Flash Express ใช้กลยุทธ์ดึงดูดใจลูกค้าโดยมีค่าส่งที่ถูกกว่าเจ้าอื่นประมาณ 20% ทำให้ช่วยลดต้นทุนของพ่อค้าแม่ค้าไปได้อีก และมีบริการรับพัสดุถึงบ้านตั้งแต่ชิ้นแรก ฟรี รวมถึงการให้บริการ 365 วันโดยไม่มีวันหยุดแม้แต่วันเดียว

ไม่เน้นแฟรนไชส์ เน้นพนักงานประจำ

นอกจากนั้นบริษัทมีนโยบายไม่ใช้บริการจากเอาท์ซอร์ส ใช้เพียงแค่พนักงานประจำ ด้วยเหตุผลที่ว่าจะทำให้บริษัทควบคุมคุณภาพการบริการให้ลุกค้าได้ ส่งผลให้ลูกค้าประทับใจ และกลับมาใช้บริการอีก

ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้การบริการดีขึ้นและต้นทุนถูกลง

Flash Express ได้ใช้เทคโนโลยีมากมายในการยกระดับโลจิสติกส์ มีทั้งการนำไปใช้ทำ Big Data เพื่อวิเคราะห์การขนส่งให้เกิดประสิทธิภาพ รวมถึงติดตั้งระบบคัดแยกพัสดุไม่มีผู้ให้บริการรายไหนในไทยมี เทคโนโลยีคัดแยกที่ทำได้ 8,000 ชิ้น/ชม. จนลดคนได้ 60% ทำให้ต้นทุนต่ำลง



แผนธุรกิจปี 65 

ตั้งเป้าขยายธุรกิจครอบคลุมทุกประเทศในอาเซียน

ทิศทางธุรกิจของแฟลชในปี 65 นี้ บริษัทเร่งเดินหน้าขยายบริการให้ครอบคลุมกลุ่มประเทศในอาเซียนทั้งหมด โดยเมื่อปี 64 ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดให้บริการในสปป.ลาว และฟิลิปปินส์ อย่างเป็นทางการไปแล้ว ซึ่งคาดว่ามาเลเซีย จะเป็นประเทศที่สามที่กำลังจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไตรมาส 1/65 และยังวางแผนเปิดให้บริการเพิ่มอีกหลายประเทศในปีนี้

หาช่องทางตลาดใหม่ๆ ที่การแข่งขันไม่มาก

นายคมสันต์ กล่าวว่า แฟลช เอ็กซ์เพรส ในปี 65 ได้เล็งเห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของกลุ่มสินค้าชิ้นใหญ่ ล่าสุดจึงได้เปิดตัว “Flash Bulky” ชูคอนเซปต์ “ส่งของใหญ่ ไว้ใจแฟลช” บริการส่งพัสดุขนาดใหญ่ ที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 5 กิโลกรัม – 100 กิโลกรัม โดยยังคงคอนเซปต์เข้ารับบริการฟรีถึงที่ (Door to Door Services) พร้อมเปิดให้บริการ 365 วันไม่มีวันหยุด ในอัตราค่าบริการเริ่มต้นเพียง 50 บาท ยิ่งไปกว่านั้นยังเอาใจลูกค้าด้วยการออกบริการเสริมที่มีชื่อว่า “Speed Guarantee” ส่งไวกว่าเดิม ด้วยการการันตีเวลาจัดส่งภายใน 2 วัน

“ในช่วง1-2 ปีที่ผ่านมา พฤติกรรมการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ของผู้บริโภคคนไทยเติบโตขึ้นอย่างมาก ซึ่งอัตราการเติบโตของสินค้าขนาดใหญ่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าประเภทของใช้สัตว์เลี้ยง อุปกรณ์ฟิตเนส เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ จำพวก ตู้เย็น เครื่องซักผ้า รวมถึงสินค้าของใช้ภายในบ้านประเภทเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ 

โดยกลุ่มสินค้าเหล่านี้นับเป็นสินค้าติดอันดับ Top 3 ที่มีตัวเลขการซื้อขายเพิ่มขึ้นบน Shopping Platform โดยมีปัจจัยหลักมาจากสถานการณ์โควิด-19 ที่แพร่ระบาดมาเป็นระยะเวลาร่วม 3 ปี รวมไปถึงการจัด Promotion และออก Campaign เพื่อกระตุ้นการซื้อสินค้าจากผู้บริโภค”



ภาพรวมธุรกิจโลจิสติกส์ และ E-Commerce 

นายคมสันต์กล่าวอีกว่า ปี 65 นับเป็นปีที่ท้าทายอย่างยิ่งของตลาด Logistics และ E-commerce ผู้เล่นแทบทุกรายต่างหันมาใช้คอนเซปต์ เข้ารับฟรีถึงที่ และให้บริการไม่มีวันหยุด สำหรับแฟลช เอ็กซ์เพรส นับว่าเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมนี้ ด้วยการนำเอา Pain Point ที่ตลาดพบเจอเข้ามา Apply ให้สอดคล้องกับบริการใหม่ ๆ ที่นำเสนอออกมา เพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายหลัก คือ การสนับสนุนตลาดให้สามารถขับเคลื่อนไปได้อย่างไม่มีสะดุด และยังช่วยให้กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่อยู่บน Platform สามารถทำธุรกิจได้อย่างคล่องตัวมากยิ่งขึ้น

รายได้ปี 64 แตะ 17,000 ล้านบาท 

นอกจากนี้แฟลช เอ็กซ์เพรส ยังได้เปิดเผยรายได้รวมของปี 64 ที่ผ่านมา ว่ามีตัวเลขอยู่ที่ประมาณ 17,000 ล้านบาท และยอดพัสดุทั้งปี สูงกว่า 600 ล้านชิ้น โดยปัจจุบันบริษัทมีพนักงานกว่า 35,000 คน มีจุดรับส่งพัสดุทั่วประเทศมากกว่า 15,000 แห่ง ประกอบด้วย Flash Shop, Flash Home และจุด Drop Off ที่ร่วมกับกลุ่มพาร์ทเนอร์หลักอย่าง Cafe Amazon, บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT, ศูนย์การค้าบิ๊กซี (Big C) ,The Living OS และธนพิริยะ(NTP) เป็นต้น
ทั้งนี้ในส่วนของศูนย์กระจายสินค้าขนาดใหญ่มีอยู่ 40 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งล่าสุดยังมีแผนขยายพื้นที่เพื่อรองรับกับปริมาณสินค้าในแต่ละวันที่มีมากกว่า 2 ล้านชิ้นอีกด้วย

มาถึงวันนี้ Flash Express ประสบความสำเร็จอยู่ในแถวหน้าของธุรกิจขนส่งและ e-commerce แม้ว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้นมาหลายราย และมีปัญหาอุปสรรคเกิดขึ้นในช่วงสถานการณ์โควิด แต่ Flash Express ก็แก้ไขปัญหาและเอาตัวรอดมาไดี นับเป็นต้นแบบยูนิคอร์นที่สร้างแรงบันดาลใจให้ธุรกิจ SME ตัวใหม่ๆ ของไทย มีพลังก้าวไปสู่ความสำเร็จได้มากขึ้น 

ที่มา : Kasikornbank, unicorn house,infoquest