04 พฤศจิกายน 2565
807

ตลาดหุ้นฮ่องกงทะยานขึ้นกว่า 1 พันจุด นักลงทุนคาดการณ์ จีนมีแผนยกเลิกนโยบาย Zero Covid

ตลาดหุ้นฮ่องกงทะยานขึ้นกว่า 1 พันจุด นักลงทุนคาดการณ์ จีนมีแผนยกเลิกนโยบาย Zero Covid

Highlight

ดัชนีฮั่งเส็งพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในวันนี้โดยเพิ่มขึ้นถึง 1,095.09 จุด หรือ +7.14% แตะที่ 16,434.58 จุด หลังจากนักลงทุนคาดการณ์ จีนมีแผนที่จะยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ และมีเป้าหมายที่จะผ่อนคลายกฎระเบียบในการควบคุมโรคโควิด-19 ในเดือนมี.ค. 2566 มีการเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มเดินเรือของไทย ที่จะได้อานิสงส์จากจีนเปิดประเทศ รวมทั้งหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว ทั้งสนามบิน สายการบิน โรงแรม และกลุ่มอุปโภคบริโภค


ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงทะยานขึ้นกว่า 1 พันจุด เนื่องจากนักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่า จีนมีแผนที่จะยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero-Covid Policy) อย่างค่อยเป็นค่อยเป็น และจะเปิดประเทศในที่สุด

ณ เวลา 12.19 น.ตามเวลาไทย ดัชนีฮั่งเส็งพุ่งขึ้น 1,095.09 จุด หรือ +7.14% แตะที่ 16,434.58 จุด และช่วงบ่ายเริ่มมีการขายทำกำไรออกไปบ้าง เมื่อเวลา 14.50 น. อยู่ที่ 16,160.24 จุด +820.75 จุด หรือ +5.35%

ดัชนีฮั่งเส็งพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากนายหาว ฮง นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังได้ทวีตข้อความว่า ทางการจีนกำลังจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาเรื่องการเปิดประเทศ และกำลังทบทวนข้อมูลด้านโควิด-19 ในต่างประเทศ เพื่อประเมินสถานการณ์หากมีการเปิดประเทศ และจีนมีเป้าหมายที่จะผ่อนคลายกฎระเบียบในการควบคุมโรคโควิด-19 ในเดือนมี.ค. 2566

ข่าวดังกล่าวได้รับการตอบรับอย่างคึกคักจากนักลงทุน แม้ว่าคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) ยืนยันว่าจะยึดมั่นในนโยบายโควิดเป็นศูนย์ โดยนักลงทุนยังคงเชื่อว่าข่าวดังกล่าวมีมูลความจริง

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนีหุ้นบริษัทจีนที่ซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกงพุ่งขึ้น 6.4% แล้วในสัปดาห์นี้ ขณะที่ดัชนี CSI 300 ตลาดหุ้นจีนทะยานขึ้นกว่า 4% และมีแนวโน้มที่จะทำสถิติรายสัปดาห์ดีที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2564 สอดคล้องกับที่ นายหาว ฮง ได้ทวีตข้อความว่า ทางการจีนกำลังจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาเรื่องการเปิดประเทศ และกำลังทบทวนข้อมูลด้านโควิด-19 ในต่างประเทศ เพื่อประเมินสถานการณ์หากมีการเปิดประเทศ และจีนมีเป้าหมายที่จะผ่อนคลายกฎระเบียบในการควบคุมโรคโควิด-19 ในเดือนมี.ค. 2566

หุ้นกลุ่มเดินเรือของไทย ปรับตัวขึ้นรับการคาดการณ์จีนใกล้เปิดประเทศ เมื่อเวลา 10.52 น.นำโดย RCL ปรับขึ้น 4.59% หรือเพิ่มขึ้น 1.25 บาท มาที่ 28.50 บาท, TTA ปรับขึ้น 3.18%, III ปรับขึ้น 1.46%, PSL ปรับขึ้น 0.71%

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์-รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นกลุ่มเดินเรือปรับตัวขึ้นวันนี้จากตลาดคาดการณ์จีนใกล้กลับมาเปิดประเทศ หลังจากมีรายงานข่าวว่าทางการจีนเตรียมหารือการผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero-Covid Policy) ซึ่งทำให้ตลาดหุ้นฮ่องกงและจีนปรับขึ้นมาแรงเช้านี้

บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) รายงานจำนวนผู้โดยสารเดือน ต.ค.22 อยู่ที่ 7.0 ล้านคน +431% YoY, +24% MoM จากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นเป็น 3.1 ล้านคน +2,586% YoY, +21% MoM ตามการผ่อนคลายการเดินทางในหลายประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะจากญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และฮ่องกง

ส่วนจำนวนผู้โดยสารในประเทศอยู่ที่ 3.9 ล้านคน +226% YoY, +27% MoM เนื่องจากมีวันหยุดยาวหลายวันช่วยหนุนการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศปรับตัวดีขึ้น

ดังนั้น มองบวกจากจำนวนผู้โดยสารที่ยังเติบโตได้โดดเด่นตามคาด โดยจำนวนผู้โดยสารรวมเดือน ต.ค.22 ที่ 7.0 ล้านคน คิดเป็น 7.3% จากเป้าของ AOT ทั้งปี FY23E ที่ 95.7 ล้านคน (+105% YoY) และคิดเป็น 59% เทียบกับจำนวนผู้โดยสารก่อนเกิดโควิดเดือน ต.ค.19 ที่ 11.8 ล้านคน โดยแบ่งเป็น

1) ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 3.1 ล้านคน คิดเป็น 6.3% จากเป้า AOT ทั้งปี FY23E ที่ 48.5 ล้านคน (+249% YoY) และคิดเป็น 44% เทียบกับผู้โดยสารก่อนโควิดเดือน ต.ค.62 ที่ 6.9 ล้านคน

2) ผู้โดยสารในประเทศ 3.9 ล้านคน คิดเป็น 8.3% จากเป้า AOT ทั้งปี FY23E ที่ 47.2 ล้านคน (+44% YoY) และคิดเป็น 81% เทียบกับผู้โดยสารก่อนเกิดโควิดเดือน ต.ค.62 ที่ 4.9 ล้านคน

ทั้งนี้ ประเมินว่าจำนวนผู้โดยสารในช่วงที่เหลือของปีจะยังคงมีทิศทางที่ดีขึ้นต่อเนื่อง จากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวโดดเด่น รวมถึงเรายังประเมินว่าจีนจะเริ่มผ่อนคลายการเดินทางมากขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกปี 66 ซึ่งจะทำให้จำนวนผู้โดยสารยังมีโอกาสฟื้นตัวได้เร็วกว่าคาดได้ รวมถึงจะทำให้ผลการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นมากกว่าคาด

ปัจจุบันยังประเมินผลการดำเนินงานปกติงวดปี 66 (FY23E) จะเริ่มพลิกกลับมาเป็นกำไรได้ที่ 6.8 พันล้านบาท ดีขึ้นจากงวดปี 65 (FY22E) ที่จะขาดทุน -1.05 หมื่นล้านบาท จากผู้โดยสารที่เติบโตดีขึ้น และตั้งแต่ 1 เม.ย.23 AOT จะสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ/สายการบิน ทำให้จะมีรายได้กลับมาเป็นปกติมากขึ้น โดยเฉพาะ king power ที่ชนะการประมูลดีวตี้ฟรีจะเริ่มจ่าย minimum guarantee

ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 82.00 บาท อิง DCF (WACC = 7%, TG = 3.5%) โดยราคาหุ้น outperform SET +3% ในช่วง 3 เดือน จากการหลายประเทศผ่อนคลายการเดินทางเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้การท่องเที่ยวและผู้โดยสารฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งแนวโน้มจะยังคงเติบโตดีขึ้นต่อเนื่องในช่วง พ.ย.-ธ.ค.22 ขณะที่ยังคงสมมติฐานว่าจีนจะเริ่มผ่อนคลายการเปิดประเทศครึ่งแรกของปี 2566

ติดต่อโฆษณา!