แนวโน้มหุ้นไทยสัปดาห์นี้

Highlight

ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ เปิดทำการ 4 วัน จันทร์ถึงพฤหัส ก่อนจะหยุดวันศุกร์ ซึ่งแนวโน้ม โบรคเกอร์ส่วนใหญ่ยังมองโอกาสลุ้นปรับตัวบวกต่อได้จากกระแสเปิดประเทศที่ยังน่าจะส่งแรงบวกต่อได้ เช่นเดียวกับเรื่องผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 3 ที่น่าจะเริ่มทยอยออกมาแล้ว แต่ละค่ายจะมองอย่างไรบ้าง

ยูโอบีเคย์เฮียน มอง SET แกว่งขึ้นในกรอบ 1,630-1,650 จุด

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์และนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพบ์ (บล.) ยูโอบีเคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ (18-21 ต.ค.) คาดว่ายังมีโอกาสแกว่งตัวบวกได้โดยมองกรอบการเคลื่อนไหว 1,630-1,650 จุด

โดยแม้ว่าผลการดำเนินงานธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 3/64 ยังคงมีแนวโน้มปรับตัวลดลงจากไตรมาส 2/64 แต่การปรับตัวลดลงกลุ่มดังกล่าวเริ่มมีกรอบจำกัด เนื่องจากราคาหุ้นในปัจจุบันตอบสนองข่าวไปก่อนแล้ว และอยู่ในระดับราคาไม่แพง และภาพรวม ของผลประกอบการธนาคารขนาดใหญ่ คาดว่าจะดีกว่ากลุ่มธนาคารขนาดกลาง-เล็ก 

ประกอบกับแนวโน้มผลประกอบการหุ้นในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีโดยรวม จะได้รับปัจจัยบวกจากราคาพลังงานที่อยู่ระดับสูง อีกทั้งภาพการเปิดเมืองและการผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มากขึ้น จะเป็นปัจจัยบวกให้นักลงทุนมองข้ามผลการดำเนินงานของหุ้นบางตัวในช่วงไตรมมาส 3/64 ข้ามไปเก็งกำไรผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/64 แทนได้ 

"มองทิศทางเป็นบวกอยู่ แม้ว่าจะผันผวนบ้าง แต่ก็มองว่าจะแกว่งตัวขึ้นได้หลัง โดยกลุ่มแบงค์ขนาดใหญ่มูลค่าไม่แพงแล้ว อีกทั้งกลุ่มพลังงานตอบรับราคาพลังงานที่สูง และการเปิดกิจกรรมเศรษฐกิจ ทำให้ดัชนีสัปดาห์หน้ายังมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นได้ " นายกิจพณ กล่าว 

ด้านปัจจัยตลาดต่างประเทศในสัปดาห์หน้า มีประเด็นการขยายเพดาหนี้ของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะสามารถขยายได้ไม่มีปัญหา และในช่วงนี้ยังไม่มีปัจจัยใหญ่จากต่างประเทศที่ต้องติดตาม 

โดยแนะนำให้นักลงทุนเก็งกำไรหุ้นเปิดเมือง โดยเป็นหุ้นที่อิงกับการฟื้นตัวเศรษฐกิจในประเทศ เช่น ห้างสรรพสินค้า CPN , รถไฟฟ้ารับการเปิดเมืองไปทำงานตามปกติ BEM , ร้านอาหาร M และ โรงภาพยนตร์ MAJOR อีกทั้งแนะนำเก็งกำไรหุ้นรายตัวที่คาดว่าผลการดำเนินงานจะออกมาดี หรือหุ้นที่ได้รับกระทบจากล็อกดาวน์ก่อนหน้านี้แต่จะเริ่มดีขึ้นในไตรมาส 4/64 เช่น FSMART และ SFT เป็นต้น

บล.เคทีบีเอสที มอง SET มีโอกาสแตะ 1,650 จุด จับตางบ Q3/64

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์ลงทุนหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคทีบีเอสที ประเมินว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในรอบสัปดาห์นี้(18-21 ต.ค.) ประเมินแนวรับที่ 1,620-1,630 จุด แนวต้านที่ 1,650 จุด โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ การประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/64 ของกลุ่มธนาคาร และการทำพรีวิว กลุ่มต่างๆ ที่จะทยอยประกาศงบเช่นเดียวกัน

ขณะเดียวกันยังต้องติดตาม มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐใหม่ๆ ออกมาเพิ่มเติม หลังจากล่าสุดได้ผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ออกมาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งจะเป็นแรงกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงท้ายปีได้

"กลยุทธ์ ในการลงทุนตลาดหุ้นช่วงนี้ ยังเล่นกรอบแคบ ซึ่งหากดูตลาด พบว่า ยังไม่เห็นเม็ดเงินใหม่เข้ามาในตลาด โดยการลงทุนในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และในรอบสัปดาห์นี้จึงเป็นการลงทุนแบบรายวัน  หรือ เดย์เทรด แต่ไม่ใช่จังหวะของการสะสมหุ้น สำหรับหุ้นเป้าหมายที่ขึ้นไปสูงแล้วและขึ้นไปแรงมาก แนะนำให้ขายทำกำไร แล้วมารอซื้อในราคาที่ถูกกว่าจึงเป็นจังหวะที่เก็บในตอนนั้น"นายมงคล กล่าว

บล.โนมูระ แนะ 3 ธีม Reopening-น้ำมัน-ผลประกอบการ Q3/64 แจ่ม

นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน-วิเคราะห์เทคนิค บล.โนมูระ พัฒนสิน มองว่า ตลาดหุ้นในช่วงสัปดาห์นี้(18 -21 ต.ค.) มีปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม ประกอบด้วย การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ความกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อ

รวมถึงติดตามตัวเลขผลประกอบการในไตรมาส 3/64 ที่ทยอยประกาศออกมาด้วย นอกจากนี้ ยังต้องติดตาม สถานการณ์น้ำมัน ที่ล่าสุดซาอุดิอาระเบีย ปฏิเสธข้อเรียกร้องของสหรัฐ ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น 

ขณะที่สถานการณ์ในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. เป็นต้นไป รัฐบาลได้ผลคลายมาตรการต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อรอรับการเปิดประเทศ ทั้งการลดเวลาเคอร์ฟิวเป็น 23.00-03.00 น. และการเปิดศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าได้ถึง 22.00 น. ซึ่งมองว่าจะเป็นบวกต่อหุ้นที่เกี่ยวข้อง 

สำหรับในรอบสัปดาห์นี้ มองกลยุทธ์การลงทุนออกเป็น 3 ธีม ประกอบด้วย 1.Reopening play เช่น BEM-ERW-CPN-WHA-MAJOR-M 2.กลุ่มที่ได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น เช่น TOP ขณะที่ PTT ซื้่อเมื่อราคาอ่อนตัว และ 3.กลุ่มที่คาดผลประกอบการออกมาดี 

ส่วนแนวรับประเมินไว้ที่ 1,617-1,625 จุด และแนวต้านที่ 1,650-1,658 จุด

หยวนต้า แนะเก็งกำไรหุ้นงบ Q3/64 เด่น

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า คาดดัชนีสัปดาห์นี้ เคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,630 จุด และแนวต้าน 1,650 จุด โดยภาพรวมตลาดคาดว่ายังคงติดตามทิศทางผลการดำนินงานไตรมาส 3/64 ของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งสัปดาห์หน้าในกลุ่มธนาคารพาณิชย์จะเริ่มทยอยประกาศออกมา และต่อด้วยกลุ่มภาคธุรกิจ Real Sector ซึ่งจะทำให้นักลงทุนเห็นภาพผลกระทบที่ชัดเจนมากขึ้น 

อย่างไรก็ตามระหว่างที่รอการทยอยประกาศงบ คาดว่าจะมีแรงขายออกมาเพื่อรอความชัดเจนของการประกาศงบQ3/64 ทำให้โทนการเคลื่อนไหวของดัชนีฯ สัปดาห์หน้าเป็นลักษณะพักฐาน อีกทั้งในช่วงปลายสัปดาห์หน้ายังมีตัวเลขภาคการส่งออกที่นักลงทุนต้องติดตามประกอบกัน 

"ดัชนีฯ น่าจะชะลอลงมาก่อน จากช่วงQ3/64 ที่บริษัทได้รับผลกระทบที่รุนแรงจากโควิด ซึ่งเราอาจจะเห็นมีแรงขายของนักลงทุนออกมาก่อนได้ในช่วงสัปดาห์หน้า ก่อนที่จะทยอยประกาศงบออกมาจริงๆ " นายณัฐพล กล่าว  

โดยกลยุทธ์การลงทุนแนะนำเน้นเก็งกำไรหุ้นที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/64 น่าจะออกมาดี ได้แก่ NER , GUNKUL และกลุ่มที่อ้างอิงเศรษฐกิจโลกอย่างกลุ่มน้ำมัน เช่น TOP