01 ตุลาคม 2564
1,321

สิริฮับ โทเคน เหลือให้จองซื้อไม่ถึง 10%

สิริฮับ โทเคน เหลือให้จองซื้อไม่ถึง 10%
Highlight

กระแสการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิตอลถือว่ามาแรง ซึ่งในอนาคต เราก็น่าจะมีโอกาสได้ลงทุนกันมากขึ้น โดยเฉพาะโทเคน ที่มีสินทรัพย์จริงมาอ้างอิง เพราะความเสี่ยงแทบไม่ต่างจากการลงทุนในสินทรัพย์ทั่วไปอย่างตราสารหนี้ หรืออสังหาริมทรัพย์ เพียงแต่สิทธิในตัวทรัพย์สินจะอยู่บนรูปของโทเคนดิจิตอลเท่านั้น ซึ่งสิริฮับ โทเคน ก็ถือเป็นโทเคนเพื่อการลงทุนตัวแรกๆ ของไทย ที่กระแสตอบรับดีจนขายเกือบหมดแล้ว


ไม่กี่วันมานี้ เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) ซึ่งได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. ได้นำ “สิริฮับ โทเคน” Real Estate-Backed ICO ตัวแรกของไทย เสนอขายแก่ประชาชนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา โดยยอดจนถึงล่าสุด มีรายย่อยและรายใหญ่จองซื้อแล้วกว่า 90% มูลค่า 2,200 ล้านบาท จากมูลค่าเสนอขายทั้งหมด 2,400 ล้านบาท

“โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับ” มีจุดเด่นคือเปิดโอกาสให้คนทุกกลุ่มเข้าถึงการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับพันล้าน ได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 10 บาท มีสินทรัพย์มูลค่าสูงเป็นหลักประกัน ได้รับผลตอบแทนที่มั่นคง ต่อเนื่องตลอดระยะเวลาโครงการ 4 ปี จากค่าเช่ากลุ่มอาคารสำนักงาน สิริ แคมปัส สำนักงานใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทที่มีเครดิตเรทติ้งในระดับความน่าเชื่อถือสูง

“สิริฮับ โทเคน” เสนอขายจำนวน 240 ล้านโทเคน ราคา 10 บาทต่อโทเคน โดยแบ่งเสนอขายเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ สิริฮับ A (SiriHubA) มูลค่าการระดมทุน 1,600 ล้านบาท มอบส่วนแบ่งรายได้รายไตรมาสสูงสุด 4.5% ต่อปี และ สิริฮับ B (SiriHubB) มูลค่าการระดมทุน 800 ล้านบาท มอบส่วนแบ่งรายได้รายไตรมาสสูงสุด ถึง 8% ต่อปี รวมมูลค่าการระดมทุนของทั้งสองกลุ่มที่ 2,400 ล้านบาท นอกจากนี้ทั้งสองกลุ่มจะได้รับส่วนแบ่งจากการจำหน่ายทรัพย์สินเมื่อสิ้นสุดโครงการ โดยเสนอขายอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา และจะปิดการขายในวันที่ 4 ตุลาคม 2564 เวลา 15.30 น.

สำหรับการจะเลือกซื้อโทเคนสิริฮับ A หรือสิริฮับ B นั้น ขอให้นักลงทุนพิจารณาเงื่อนไขผลตอบแทนให้ละเอียด เนื่องจากทั้งสองตัวต่างมีข้อดีที่แตกต่างกัน หากเทียบส่วนแบ่งรายไตรมาสต่อปี สิริฮับ B จะมอบส่วนแบ่งรายไตรมาสที่ 8% ต่อปี ในขณะที่สิริฮับ A ได้รับ 4.5% ต่อปี แต่สิริฮับ A มีความพิเศษคือ หลังจบโครงการระยะ 4 ปี ผู้ถือสิริฮับ A จะได้รับส่วนแบ่งรายได้จากการขายโครงการสิริแคมปัสก่อนผู้ถือสิริฮับ B  ซึ่งความพิเศษนี้ทำให้ผู้ถือสิริฮับ A รู้สึกอุ่นใจมากยิ่งขึ้น อีกทั้งในระหว่างการถือครองโทเคน 4 ปีนั้น ในขณะที่ผู้ถือสิริฮับ B จะได้รับส่วนที่เกินจาก 1,600 ล้านทั้งหมด ซึ่งจากการประเมินมูลค่าที่ดินมีโอกาสสูงมากที่จะขายทรัพย์สินโครงการได้เกิน 2,400 ล้านบาท เท่ากับว่าผู้ถือสิริฮับ B มีสิทธิลุ้น capital gain ในปีที่ 4 (เฉพาะในกรณีที่ขายคืนโครงการได้แพงกว่า 2,400 ล้านบาท)

นอกจากนี้ เมื่อได้รับการจัดสรรโทเคนแล้ว ยังสามารถนำไปซื้อ-ขายได้ในตลาดรอง ซึ่งเอ็กซ์สปริง ดิจิทัล ได้จับมือกับ บริษัท อีอาร์เอ็กซ์ จำกัด (ERX) ซึ่งเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล  ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ที่นักลงทุนสามารถมั่นใจได้ถึงความน่าเชื่อถือและความปลอดภัย

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คลิก www.xspringdigital.com/th/project/sirihub

ติดต่อโฆษณา!