30 กรกฎาคม 2565
1,248

สธ. เร่งปรับปรุงประกาศกำหนดให้เฉพาะ "ช่อดอกกัญชา” เป็นสมุนไพรควบคุม

สธ. เร่งปรับปรุงประกาศกำหนดให้เฉพาะ "ช่อดอกกัญชา” เป็นสมุนไพรควบคุม
Highlight  

ความกังวลจากหลายฝ่ายถึงกรณีการนำกัญชาไปใช้อย่างแพร่หลาย อาจไม่ถูกต้องและเป็นอันตรายต่อสุขภาพภายหลังจากการปลดล็อกและครอบครองได้อย่างเสรี โดยเฉพาะเด็ก เยาวชน สตรีมีครรภ์ ดังนั้นส่วนที่สำคัญคือ “ช่อดอกกัญชา” จึงควรเป็นสมุนไพรควบคุม หากครอบครองเกินกำหนด หรือเพื่อการค้าต้องขออนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขและเน้นย้ำการใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์เท่านั้น

20220730-b-01.jpg

เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2565 จากกรณี นพ.ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ส่งหนังสือด่วนที่สุด ถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือตำรวจจับกุมดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนไม่ขออนุญาตใช้กัญชาใน 4 กรณี คือ 1) ไม่ขออนุญาตศึกษาวิจัยกัญชา 2) ไม่ขออนุญาตส่งออกกัญชา 3) ไม่ขออนุญาตจำหน่ายกัญชา และ 4) ไม่ขออนุญาตแปรรูปกัญชาเพื่อการค้า ต่อมาทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแถลงว่ารายละเอียดยังไม่มีความชัดเจน และขอให้มีการปรึกษาหารือกันก่อน

ความคืบหน้าล่าสุด นพ.ณรงค์ สายวงค์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ร่วมกันแถลงข่าวด่วนกรณีดังกล่าว เมื่อ 27 ก.ค. ที่ผ่านมา

โดย นพ.ณรงค์ กล่าวว่า ตามที่หนังสือดังกล่าวระบุถึงการให้ดำเนินคดีกับผู้ไม่ขออนุญาต 4 กรณีดังกล่าวนั้น เพื่อต้องการคุ้มครองผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี สตรีตั้งครรภ์และสตรีให้นมบุตร จากที่ได้มีการตรวจสอบหนังสือและปรึกษากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้สรุปให้มีการข้อสั่งการให้อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกให้ทบทวนในรายละเอียดประเด็นที่เกี่ยวข้อง และนำเสนอต่อไป ทั้งนี้ นำหนังสือฉบับดังกล่าวกลับมาพิจารณาทบทวนอีกครั้ง เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด

ด้าน นพ.ยงยศ  กล่าวว่า คณะอนุกรรมการด้านกฎหมาย ภายใต้ พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2542 หารือแล้วเห็นว่าการกำหนดกัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม ต้องมีความชัดเจน 4 เรื่อง คือ  

1.ประชาชนที่ใช้ประโยชน์กัญชาในการดูแลสุขภาพต้องไม่ได้รับผลกระทบ  
2.ความผิดของประชาชนที่ดำเนินการก่อนจะมีประกาศฉบับนี้ต้องไม่มี  
3.การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ที่จะไปดำเนินการร่วมกับผู้เกี่ยวข้องต้องมีความชัดเจน และ  
4.กัญชาจะเป็นพืชสำคัญสร้างเศรษฐกิจ และคุณค่าทางการแพทย์ การให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติดหรือถูกด้อยค่าจากการกระทำของคนก็ไม่ควรเกิดขึ้น

ดังนั้น คณะอนุกรรมการด้านกฎหมายฯ จึงเห็นควรให้ปรับปรุงประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม ให้มีความชัดเจนขึ้น โดยจะกำหนดเฉพาะ”ช่อดอกกัญชา”เป็นสมุนไพรควบคุมเท่านั้น

"ถ้าประกาศทั้งต้น จะมีผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมาก แต่การประกาศเฉพาะช่อดอก จะทำให้ผู้ที่ใช้ประโยชน์จากราก ต้น กิ่ง ใบ ยังสามารถใช้ได้ตามปกติ นอกจากนี้ จะกำหนดปริมาณช่อดอกสำหรับครัวเรือนที่เหมาะสม ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาและรับฟังความคิดเห็น  

คาดว่าสัปดาห์หน้าจะได้ข้อสรุปปริมาณช่อดอกกัญชา หากไม่เกินที่กำหนดจะไม่เข้าข่าย สามารถใช้ดูแลสุขภาพตนเองได้ หากเกินหรือเพื่อการค้าก็ต้องขออนุญาต ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก เพราะจะอำนวยความสะดวกด้วยการขอทะเบียนออนไลน์ โดยจะกำหนดคุณสมบัติของผู้จำหน่ายไว้" นพ.ยงยศกล่าว

ทั้งนี้ หลังปรับปรุงแล้วจะเสนอให้คณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาฯ ซึ่งมีปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธานพิจารณา ก่อนเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขลงนามต่อไป

นพ.ยงยศ กล่าวต่อว่า การออกประกาศฉบับใหม่จะเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน และเมื่อมีความชัดเจนจะมีการทำความเข้าใจกับผู้ปฏิบัติคือ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดในฐานะผู้อนุญาตในพื้นที่ และหารือร่วมกันกับทางตำรวจเพื่อทำความเข้าใจ

ส่วนประกาศฉบับก่อนหน้านี้ การบังคับใช้เรื่องบทลงโทษน่าจะยังไม่เกิดขึ้น เนื่องจากใช้มาตรการป้องปรามและตักเตือนเป็นหลัก และการดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายต้องครบกระบวนความ โดยต้องมีเจ้าพนักงานสาธารณสุขที่มีความเชี่ยวชาญให้ความเห็นว่าสมุนไพรและผลิตภัณฑ์สมุนไพรนั้นผิดกฎหมายหรือไม่ อย่างไรก็ดี กระทรวงสาธารณสุขขอเน้นย้ำการใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์เท่านั้น

ที่มา : thaigov.go.th

ติดต่อโฆษณา!