17 พฤศจิกายน 2564
2,104

ไทยตกขบวน 95 ประเทศรับสูตรผลิต “แพกซ์โลวิด” จากไฟเซอร์

ไทยตกขบวน 95 ประเทศรับสูตรผลิต “แพกซ์โลวิด” จากไฟเซอร์
Highlight

องค์กรสิทธิบัตรยาร่วม (เอ็มพีพี) เปิดเผยว่า ได้บรรลุข้อตกลงด้านสิทธิบัตรยากับบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ โดยทางบริษัทจะอนุญาตให้ผู้ผลิตยาสามัญสามารถจำหน่าย “ยาแพกซ์โลวิด” (Paxlovid) ซึ่งเป็นยารักษาโรคโควิด-19 ในกลุ่มประเทศรายได้ต่ำและรายได้ปานกลางจำนวน 95 ประเทศทั่วโลก แต่ปรากฏว่าไม่มีรายชื่อของประเทศไทย ทันข่าว Today พาไปติดตามเรื่องนี้กัน


ยาแพกซ์โลวิด ถือเป็นยาต้านไวรัสชนิดเม็ดที่ได้ผลดีในห้องทดลอง ซึ่งบริษัทที่ต้องการผลิตยาแพกซ์โลวิดสามารถยื่นเรื่องต่อเอ็มพีพีเพื่อขอการอนุมัติ โดยเอ็มพีพีจะมอบช่วงสิทธิบัตรให้แก่บริษัทที่มีคุณสมบัติเหมาะสม และได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานสาธารณสุขภายในประเทศในการผลิตยาดังกล่าว

โดยเอ็มพีพีคาดการณ์ว่ายาแพกซ์โลวิดจะเข้าถึง 95 ประเทศดังกล่าวภายในเวลาอีกไม่กี่เดือน

ทั้งนี้ ประเทศที่เข้าเกณฑ์ได้รับช่วงสิทธิบัตรการผลิตยาแพกซ์โลวิดทั้ง 95 ประเทศ ส่วนใหญ่เป็นประเทศในภูมิภาคเอเชีย และแอฟริกา โดยอยู่ในกลุ่มประเทศในทวีปแอฟริกาตอนใต้ทะเลทรายซาฮารา (SSA), กลุ่มประเทศรายได้ต่ำ (LIC), กลุ่มประเทศรายได้ต่ำถึงปานกลาง (LMIC) และกลุ่มประเทศรายได้ปานกลางค่อนข้างสูง (UMIC)

อาเซียน มี 6 ประเทศเข้าเกณฑ์

สำหรับประเทศใน “เอเชียตะวันออกเฉียงใต้” มีอยู่ 6 ประเทศที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าว ได้แก่ สปป.ลาว, เมียนมา, กัมพูชา, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ส่วนประเทศที่ไม่อยู่ในรายชื่อ ได้แก่ บรูไน มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย

ทั้งนี้ รายชื่อ 95 ประเทศที่รับสิทธิผลิตยาแพกซ์โลวิด ได้แก่

Afghanistan, Algeria, Angola, Armenia, Bangladesh, Belize, Benin, Bhutan, Bolivia (Plurinational State of), Botswana, Burkina Faso, Burundi, Cabo Verde, Cambodia, Cameroon, Central African Republic, Chad, Comoros, Congo, democratic Republic of the, Congo, Côte d'Ivoire

Djibouti, Egypt, El Salvador, Equatorial Guinea, Eritrea, Eswatini, Ethiopia, Gabon, Gambia (the), Georgia, Ghana, Guatemala, Guinea, Guinea-Bissau, Haiti, Honduras, India, Indonesia, Iran (Islamic Republic of), Jordan, 

Kenya, Kiribati, Korea (Democratic People's Republic of), Kosovo, Kyrgyzstan, Lao People's Democratic Republic (the), Lesotho, Liberia, Madagascar, Malawi, Mali, Mauritania, Micronesia (Federated States of)

Moldova, Republic of, Mongolia, Morocco, Mozambique, Myanmar, Namibia, Nepal, Nicaragua, Niger, Nigeria, Pakistan, Papua New Guinea, Philippines, Rwanda, Samoa, Sao Tome and Principe, Senegal, Sierra Leone, Solomon Islands, Somalia, South Africa,

South Sudan, Sri Lanka, Sudan, Syrian Arab Republic, Tajikistan, Tanzania, United Republic of, Timor-Leste, Togo, Tonga, Tunisia, Uganda, Ukraine, Uzbekistan, Vanuatu, Venezuela (Bolivarian Republic of), Viet Nam, Yemen, Zambia, Zimbabwe

การบรรลุข้อตกลงระหว่างเอ็มพีพีและบริษัทไฟเซอร์ในวันนี้มีขึ้นหลังจากที่เอ็มพีพีบรรลุข้อตกลงกับบริษัทเมอร์ค แอนด์ โค ก่อนหน้านี้เช่นกันในการมอบสูตรการผลิตยาโมลนูพิราเวียร์ ซึ่งเป็นยารักษาโรคโควิด-19 ให้แก่ 105 ประเทศทั่วโลก ซึ่งก็ไม่มีประเทศไทยในรายชื่อด้วยเช่นกัน

โดยบริษัทเมอร์ค และไฟเซอร์ จะไม่เรียกเก็บค่าตอบแทนจากบริษัทที่ผลิตยาโมลนูพิราเวียร์และยาแพกซ์โลวิด ตราบใดที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังคงระบุว่าโรคโควิด-19 ถือเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ

“ไฟเซอร์” เปิดเผยถึงผลการทดลอง พบว่า “ยาแพกซ์โลวิด” สามารถลดความเสี่ยงของผู้ป่วยโควิด-19 ในการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตได้ถึง 89% โดยสูงกว่ายาโมลนูพิราเวียร์ของบริษัทเมอร์ค ซึ่งมีประสิทธิภาพเพียง 50%

ทั้งนี้ ยา 1 คอร์สของเมอร์คประกอบด้วยยาโมลนูพิราเวียร์ขนาด 200 มิลลิกรัม จำนวน 40 เม็ดสำหรับผู้ป่วย 1 คน โดยผู้ป่วยจะรับประทานยาวันละ 2 ครั้งๆละ 4 เม็ด เป็นเวลา 5 วัน

ส่วนผู้ที่จะรับประทานยาของไฟเซอร์จะต้องรับทั้งยาแพกซ์โลวิด พร้อมกับยาริโทนาเวียร์ ซึ่งเป็นยารักษาผู้ติดเชื้อ HIV โดยยา 1 คอร์สของไฟเซอร์ประกอบด้วยยาแพกซ์โลวิด 20 เม็ดและริโทนาเวียร์ 10 เม็ดสำหรับผู้ป่วย 1 คน

โดยผู้ป่วยจะรับประทานยาแพกซ์โลวิดขนาด 150 มิลลิกรัม 2 เม็ดต่อครั้ง คู่กับยาริโทนาเวียร์ 100 มิลลิกรัม 1 เม็ดต่อครั้ง วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 5 วัน

ขณะนี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (เอฟดีเอ) กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาให้การอนุมัติการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์และยาแพกซ์โลวิดเป็นกรณีฉุกเฉิน โดยคาดว่าจะให้การอนุมัติยาโมลนูพิราเวียร์ในช่วงต้นเดือนธ.ค. และจะให้การอนุมัติยาแพกซ์โลวิดหลังจากนั้น

ติดต่อโฆษณา!